การแจ้งการตาย
หน้าที่ของผู้แจ้งการตาย
1. เมื่อมีคนตายในบ้าน ให้เจ้าบ้านเป็นผู้แจ้งต่อนายทะเบียน ผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตายภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตาย ในกรณีไม่มีเจ้าบ้านให้ผู้พบศพแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาพบศพ
2. เมื่อมีคนตายนอกบ้าน ให้ผู้ที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพ เป็นผู้แจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่ง ท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้ภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาตายหรือพบศพ ในกรณีนี้จะแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือ ตำรวจก็ได้
สถานที่รับแจ้งการตายและผู้มีหน้าที่รับแจ้งการตาย
1. กรณีมีคนตายนอกเขตเทศบาล ณ ท้องที่ใดให้ผู้มีหน้าที่แจ้งการตายต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง คือ กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในท้องที่นั้น หรือปลัดอำเภอ หรือผู้ช่วยนายทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอนั้น
2. กรณีมีคนตายในเขตเทศบาล ให้ผู้มีหน้าที่แจ้งการตายต่อนายทะเบียนท้องถิ่น ณ สำนักงานเทศบาลนั้น
3. กรณีมีคนตายในกรุงเทพมหานคร ให้ผู้มีหน้าที่แจ้งการตายต่อนายทะเบียนท้องถิ่น ณ สำนักงานเขตนั้น
การแจ้งการตาย
1. แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของผู้ตายตามหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวที่นำไปแสดง (ถ้ามี)
2. แจ้ง วัน เดือน ปี และสถานที่ตายพร้อมสาเหตุการตาย ถ้ามีหนังสือรับรองการตายจากสถานพยาบาลให้นำไปแสดงด้วย
และถ้าทราบชื่อสกุลของบิดามารดาของผู้ตาย ให้แจ้งต่อนายทะเบียนด้วย
3. แจ้งการดำเนินการเกี่ยวกับศพของผู้ตายด้วย จะเก็บ ฝัง เผา ทำลาย หรือย้ายศพ ที่ไหน เมื่อไร แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของผู้แจ้งการตายตามหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน หรือบัตรประจำตัวทีนำไปแสดง
วิธีการรับแจ้งการตาย
เมื่อนายทะเบียนได้รับแจ้งการตายจากผู้มีหน้าที่แล้ว จะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร หลักฐานที่นำไปแสดง เมื่อเห็นว่าถูกต้อง
จะลงรายการต่าง ๆ ในมรณบัตร และให้ผู้แจ้งลงลายมือชื่อในมรณบัตร พร้อมมอบมรณบัตร (ตอนที่ 1) ให้แก่ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน
การแจ้งการตายเกินกำหนดเวลา หมายถึง มีกรณีคนตายแต่ไม่ได้แจ้งการตายภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีนี้ให้ผู้แจ้งการตายยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพ
วิธีการรับแจ้งการตายเกินกำหนดเวลา
1. เมื่อนายทะเบียนได้รับคำร้องแล้วจะตรวจสอบคำร้องและเอกสารที่ผู้แจ้งนำไปแสดง แล้วดำเนินการเปรียบเทียบคดีความผิดตามที่กฎหมายกำหนด
2. สอบสวนสาเหตุจากพยานบุคคลเพื่อให้ทราบถึง วัน เดือน ปี ที่ตาย สถานที่ตายและผู้รู้เห็นการตาย ตลอดจนสาเหตุที่ไม่แจ้งการตายภายในเวลาที่กำหนด
3. รวบรวมหลักฐานและพิจารณา เมื่อเห็นว่าเชื่อถือได้จะสั่งอนุญาตให้แจ้งได้ และดำเนินการต่อไป
กรณีมีการตายแต่ยังไม่พบศพ
ให้เจ้าบ้านหรือผุ้ที่ไปกับผู้ตายแจ้งต่อนายทะเบียนหรือเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ เพื่อดำเนินการต่อไป
หมายเหตุ การแจ้งการตายไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด
ที่มา http://www.wangpaicity.com/cont_method/birth.html